ฝนตกพรำ พรำ..มาปลูกผักกินกันเถอะ
ถึงแม้ว่าหน้าฝนจะเป็นช่วงที่เหมาะสมต่อการปลูกผัก แต่ต้องบอกเลยว่าพืชผักทุกชนิดไม่ได้ต้องการน้ำมากเหมือนกันหมด ฉะนั้นสำหรับคนที่กำลังมองหาผักปลูกในช่วงหน้าฝนนี้ การเลือกปลูกผักตามฤดูกาลจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด โดยถ้าหากใครสงสัยและอยากรู้ว่า ผักที่ควรปลูกในหน้าฝนมีอะไรบ้าง แล้วต้องใส่ใจ ดูแล หรือมีเทคนิคพิเศษในการปลูกผักหน้าฝนไหม วันนี้เพื่อนชุมชนรวบรวมข้อมูลปลูกผักหน้าฝนมาฝากค่ะ
1.ผักชี
ผักชีเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงปลายฤดูฝน เริ่มแรกให้ผสมดินร่วนปนทรายเข้ากับปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และปูนขาว ซึ่งถ้าหากใครปลูกลงแปลงก็ให้ทำแปลงปลูกแบบยกร่องสูง เพื่อให้ดินสามารถระบายน้ำได้ดี เนื่องจากผักชีไม่ชอบให้ดินแฉะ หลังจากนั้นก็มาเตรียมเมล็ดด้วยการหมักในน้ำสะเดาหรือเชื้อราไตรโคเดอร์มา ฮาร์เซียนั่ม (Trichoderma harzianum) สักประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการเน่า เสร็จแล้วก็นำมาหว่านให้ห่างกันพอสมควร พร้อมใช้ฟางข้าวบดสั้น ๆ โรยหน้าดินและรดน้ำให้ชุ่มก็เสร็จเรียบร้อย
2.สะระแหน่
สะระแหน่เป็นพืชที่นิยมปลูกด้วยการปักชำ โดยขั้นแรกให้นำดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ทราย 1 ส่วน และปูนขาวเล็กน้อยมาผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เลือกกิ่งสะระแหน่ที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไปมาปักลงในดินปลูก โดยให้กิ่งนอนเอนราบทาบไปกับหน้าดิน แล้วรดน้ำให้ชุ่มพอสมควร ทว่าระวังอย่าให้แฉะจนเกินไป เสร็จแล้วก็โรยแกลบทับหน้าดินเล็กน้อย พร้อมหลีกเลี่ยงการใส่ปุ๋ยเคมี เนื่องจากจะทำให้ต้นเหี่ยวตาย
3.คะน้า
คะน้าเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว เนื่องจากไม่ค่อยทนความร้อนมากนัก โดยสำหรับวิธีการปลูกให้นำดินมาตากให้แห้ง แล้วผสมเข้ากับปุ๋ยคอก จากนั้นก็หว่านเมล็ดให้ห่างกันสักประมาณ 2-3 เซนติเมตร แล้วใช้ดินกลบให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร พร้อมคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยบำรุงเพิ่ม แต่ถ้าหากอยากใส่จริง ๆ ก็ให้ใส่หลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 37 วัน
4.กุยช่าย
กุยช่ายเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงต้นและปลายฤดูฝน โดยให้เตรียมดินด้วยการยกร่องสูงประมาณ 30 เซนติเมตร-1 เมตร หรือถ้าจะปลูกในกระถางก็ให้พรวนดินและตากดินให้แห้ง ก่อนจะใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยมูลสัตว์ ผสมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เข้าไป พร้อมคลุกให้เข้ากันเป็นเวลาประมาณ 3-5 วัน หลังจากนั้นก็หว่านเมล็ดกุยช่ายลงไป แล้วคลุมด้วยฟางข้าวหรือแกลบ
5.กวางตุ้ง
กวางตุ้งเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี โดยวิธีการปลูกให้นำดินร่วนไปผสมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในอัตรา 2:1 ส่วน จากนั้นกดดินลงไปประมาณ 0.5 เซนติเมตร แล้วหยอดเมล็ดลงหลุมประมาณ 1-2 เมล็ด/หลุม กลบดินทับ รดน้ำให้ชุ่ม โรยปูนขาวล้อมรอบเพื่อป้องกันมดสักหน่อย เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
6.ผักบุ้ง
ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงปลายฤดูฝน โดยให้ทำการหว่านเมล็ดในตอนเย็น และต้องรดน้ำหน้าดินให้ชุ่มก่อนจะลงมือหว่าน เสร็จแล้วก็คลุมดินด้วยฟางแห้งบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม ระวังอย่าให้ขาดน้ำหรือมีน้ำขัง พร้อมทำตาข่ายบังแดดและบังฝนกางไว้เหนือแปลงหรือกระถาง
7.ผักกาดหอม
ผักกาดหอมเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงปลายฤดูฝน โดยเริ่มแรกให้เตรียมดินด้วยการผสมดินเข้ากับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 และปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยมูลสัตว์ จากนั้นก็พรวนให้ดินร่วนซุยเข้ากัน ตากให้ดินแห้ง และใส่ปูนขาวผสมลงไป เสร็จแล้วก็หว่านเมล็ด พร้อมนำดินที่ผสมกับมูลสัตว์มาโรยทับให้ทั่วดิน รดน้ำให้ชุ่ม รอจนโตเป็นต้นกล้า แล้วย้ายกระถางปลูก
8.บวบ
บวบเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน โดยต้องทำการเตรียมการปลูกในช่วงก่อนเข้าฤดูฝนหรือตอนที่ฝนไม่ตกสักประมาณ 1 สัปดาห์ เพราะต้องทำการตากดินให้แห้งประมาณ 5-7 วัน หลังจากนั้นก็ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดิน ขุดหลุมให้ลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร และถ้าดินเป็นกรดก็ต้องใส่ปูนขาวผสมลงไปด้วย เสร็จแล้วจึงเริ่มหยอดเมล็ดลงหลุมประมาณ 4-5 เมล็ด/หลุม จากนั้นก็กลบด้วยดินร่วนหรือปุ๋ยคอกหนา 1 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่ม พอบวบเริ่มเลื้อยก็ทำไม้ค้ำสำหรับเลื้อยเกาะได้เลย
9.มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงปลายฤดูฝน โดยมีขั้นตอนคือตากดินให้แห้งประมาณ 7-10 วัน แล้วผสมเข้ากับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อทำให้ดินร่วนซุย จากนั้นก็ทำการหว่านเมล็ด แล้วโรยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักกลบทับหน้าดินอีกชั้น โดยโรยให้มีความหนาประมาณ 0.6-1.2 เซนติเมตร เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน ก็สามารถย้ายกระถางปลูกได้ โดยให้ทำการย้ายต้นกล้าในช่วงเวลาบ่ายถึงเย็น และให้ต้นกล้ามีดินติดรากมากที่สุด พร้อมรดน้ำให้ชุ่มทันทีที่ย้ายเสร็จ
10.หอมแดง
หอมแดงเป็นพืชที่เหมาะจะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน โดยต้องตากดินให้แห้งก่อนปลูกสักประมาณ 2-3 วัน จากนั้นพรวนดินให้ร่วนซุยเป็นก้อนเล็ก ๆ พร้อมใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยมูลสัตว์ลงไป แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นก็ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 โรยรองพื้นก่อนปลูก พร้อมรดน้ำให้ดินชุ่ม แล้วไปนำหัวหอมที่ตัดแต่ง ทำความสะอาด และเล็มราก ใบแห้งทิ้งแล้วมาปักลงไปในดินปลูก โดยให้เหลือพ้นดินไว้ประมาณครึ่งหัว อย่ากดลงไปแรงมาก ไม่เช่นนั้นหัวหอมจะช้ำ เสร็จแล้วก็คลุมดินด้วยหญ้าหรือฟางหนาพอประมาณ รดน้ำให้ชุ่ม ก็เสร็จเรียบร้อย
เพียงแค่เลือกปลูกพืชผักให้ถูกต้องตามฤดูกาล ก็ช่วยให้เรามีผักอร่อย ๆ กินได้ง่าย ๆ แล้ว แถมยังถือเป็นการช่วยเซฟเงินในฤดูผักแพงไปได้ในตัวอีกด้วยนะ
ขอบคุณที่มา สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
Leave A Comment